วันอังคารที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
วันจันทร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
28 ข้อเตือนใจในการใช้ชีวิต
1. อย่าขับรถเร็วเกินกว่าที่เทวดาประจำตัวของคุณบินทันเป็นอันขาด
2. จงวางแผนล่วงหน้า : ฝนยังไม่ตกหรอกนะตอนโนอาห์สร้างเรือน่ะ
3. การแก้แค้นไม่ทำให้เรารู้สึกดีขึ้นเหมือนกับดื่มน้ำทะเลเวลาหิวน้ำน่ะแหละ
4. ความหมายของความสุขขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณอยากให้มันเป็น
5. "อย่ากลัวความฝันของคุณ มันง่ายกว่าที่คิด"
6. นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า ทุกๆ 4 คน จะมีคนหนึ่งที่สติเพี้ยนๆลองเช็คเพื่อนคุณสัก 3 คนสิ ถ้าทุกคนปกติดี ก็คุณ
น่ะแหละ
7. แบ่งปันรอยยิ้มของคุณให้กับทุกคน แต่ให้เก็บจุมพิตให้กับคนเพียงคนเดียว
8. บางครั้งวิธีช่วยที่ดีที่สุดที่คุณทำได้ก็คือ ผลักเขาแรงๆ (หมายถึงผลักดันให้เขาทำสิ่งที่ลังเลอยู่น่ะ)
9. น้ำตาจะให้คุณก็แค่ความเห็นอกเห็นใจ แต่เหงื่อจะทำให้คุณประสบความสำเร็จ
10. สิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตนี้ไม่ใช่วัตถุ
11. มอบสองสิ่งให้กับลูกของคุณ อย่างหนึ่งคือรากฐานที่มั่นคง อีกอย่างก็คือ ปีกที่จะบินออกไปเอง
12. การออกกำลังกายที่ดีที่สุดสำหรับจิตใจคือการก้มลงแล้วช่วยคนอื่นให้ลุกขึ้น
13. คนคนหนึ่งอาจทำอะไรผิดพลาดได้หลายอย่างแต่มันจะกลายเป็นความพ่ายแพ้ไปจริงๆ เมื่อเขาเริ่มโยนความ
ผิดไปให้คนอื่น
14.เพื่อนแท้คือคนที่เชื่อว่าคุณเป็นฟองไข่ที่สมบูรณ์แม้ว่าจริงๆแล้วคุณจะมีรอยร้าวไปแล้วครึ่งหนึ่ง
15. นี่คือวิธีที่จะรู้ว่าหน้าที่ของคุณบนโลกใบนี้จบสิ้นแล้วหรือยังถ้าคุณยังมีชีวิตอยู่ มันก็ยังไม่จบ
16. ชีวิตเรียนรู้ได้จากการย้อนระลึกถึง แต่ชีวิตต้องก้าวไปข้างหน้า
17. การใช้ชีวิตอยู่บนโลกนั้นต้องเสียค่าใช้จ่ายแพงมากแต่เราก็ได้เดินทางรอบดวงอาทิตย์ฟรีๆ เป็นของแถม
18. ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่มนุษย์เราจะร่ำรวยความผิดพลาดเกิดขึ้นเมื่อความร่ำรวย เริ่มครอบครองมนุษย์
19. เรารู้สึกดีที่มีความสำคัญ แต่ที่สำคัญยิ่งกว่าก็คือเป็นคนดี
20. มีแต่ปลาตายที่ลอยตามน้ำ
21. คุณค่าของคนคนหนึ่งบอกได้จากวิธีที่เขาปฏิบัติต่อคนที่เขาไม่ต้องการ
22. เงยหน้าขึ้นรับแสงตะวัน แล้วคุณจะไม่มีวันพบกับเงามืด
23. คนอ่อนแอเท่านั้นที่ให้อภัยใครไม่เป็น การให้อภัยเป็นคุณสมบัติของผู้เข้มแข็ง
24. คำว่า listen (ฟัง) นั้นใช้ตัวอักษรชุดเดียวกับคำว่า silent (เงียบ)
25. ไม่มีผู้โดยสารบนยานอวกาศที่ชื่อว่า "โลก" พวกเราทุกคนล้วนแต่เป็นลูกเรือทั้งสิ้น
26. ในโลกนี้ไม่มีคนแปลกหน้าสำหรับเรา มีแต่เพื่อนที่เรายังไม่ได้พบเท่านั้น
27. เมื่อคุณพูดความจริง คุณไม่จำเป็นต้องไปนั่งจำอะไรทั้งนั้น
28. เด็กๆต้องการความรักมากที่สุดเมื่อพวกเขาทำตัวไม่น่ารัก
วันเสาร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
วันอังคารที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
Pay attention ^^
what is a blog ?
a blog ( short for weblog) is a frequently updated website that often resembles an online journal
( or diary)
การเอาบล็อกมาใช้ในการสอนภาษา แบ่งออกเป็น 3 ชนิด
1 . tutor blog อาจบอกว่าคอร์สนี้มีไรบ้าง ไปโพสต์งานให้เด็กทำ ครูอาจเรื่องที่เกี่ยวกับตัวครูเอง สิ่งที่เด็กเข้ามาทำได้ คือมา เขียนคอมเม้น ครูเป็นแอดมิน
2. class blog เหมือนที่ๆเเชร์ความเห้นระหว่างครูกับนักเรียน ใช้ประโยชน์โดยการมีการอภิปรายโดยร่วมมือกัน เด็กมีความรู้สึกว่าตัวเองเป็นอิสระมากขึ้น ไมจ่จำกัดยุแต่ในห้องเรียน รู้สึกว่าตังวเองมีส่วนร่วม
3.learner blog ให้เด็กแต่ละคนสรางบล็อกของตนเอง เป็นพื้นที่ส่วนตัวที่มันออนไลน์ยุในเว็บ เด็กอาจไปบันทึกหรือเขียนอะไรก็ได้ ให้เด็กได้ไปฝึกเขียนโดยหวังว่าจะมีใครเข้ามาอ่าน เป็นการฝึกเขียนอย่างมีจุดมุ่งหมาย
Blogigng and Writing
บล็อกโดยส่วนใหญ่สร้างมาเพื่อใช้ในการเขียน เพราะมีผู้อ่านอย่างแท้จริง เป็นการสื่อสาร 2 ทาง คือ มีผู้อ่านและสามารถคอมเม้นได้ บล็อกสมารถมีการกลั่นกรองโดยกระบวนการของการ edit เพื่อนทบทวนการเขียนของเรา เช่น เข้ามาอ่านแล้วบอกว่ามีที่ผิดด้วยน่ะ เว็บบล็อกเนี่ยะมันทำให้คนไม่ถูกกักกันเอาไว้ในที่ใดที่หนึ่ง มันไม่เหมือนการพูดแสดงความคิดเห็นในห้องเรียน ที่บางคนกลัว
Why blog ?
เป็นแหล่งที่ทุกคนในห้องเรียนพร้อมมามีส่วนร่วม วิธีการที่จะทำให้ผู้เรียนมีความสนใจต่อบล็อกคือ การสร้างคำถามที่ดี ให้เด็กได้ใช้ความคิด ในการเขียนข้อความในบล็อก เราสามารถใช้ประโยชน์จากสิ่งที่เด็กๆมาคอมเม้น เช่น ข้อผิดพลาดทางภาษา ไวยากรณ์ของเด็ก
a blog ( short for weblog) is a frequently updated website that often resembles an online journal
( or diary)
การเอาบล็อกมาใช้ในการสอนภาษา แบ่งออกเป็น 3 ชนิด
1 . tutor blog อาจบอกว่าคอร์สนี้มีไรบ้าง ไปโพสต์งานให้เด็กทำ ครูอาจเรื่องที่เกี่ยวกับตัวครูเอง สิ่งที่เด็กเข้ามาทำได้ คือมา เขียนคอมเม้น ครูเป็นแอดมิน
2. class blog เหมือนที่ๆเเชร์ความเห้นระหว่างครูกับนักเรียน ใช้ประโยชน์โดยการมีการอภิปรายโดยร่วมมือกัน เด็กมีความรู้สึกว่าตัวเองเป็นอิสระมากขึ้น ไมจ่จำกัดยุแต่ในห้องเรียน รู้สึกว่าตังวเองมีส่วนร่วม
3.learner blog ให้เด็กแต่ละคนสรางบล็อกของตนเอง เป็นพื้นที่ส่วนตัวที่มันออนไลน์ยุในเว็บ เด็กอาจไปบันทึกหรือเขียนอะไรก็ได้ ให้เด็กได้ไปฝึกเขียนโดยหวังว่าจะมีใครเข้ามาอ่าน เป็นการฝึกเขียนอย่างมีจุดมุ่งหมาย
Blogigng and Writing
บล็อกโดยส่วนใหญ่สร้างมาเพื่อใช้ในการเขียน เพราะมีผู้อ่านอย่างแท้จริง เป็นการสื่อสาร 2 ทาง คือ มีผู้อ่านและสามารถคอมเม้นได้ บล็อกสมารถมีการกลั่นกรองโดยกระบวนการของการ edit เพื่อนทบทวนการเขียนของเรา เช่น เข้ามาอ่านแล้วบอกว่ามีที่ผิดด้วยน่ะ เว็บบล็อกเนี่ยะมันทำให้คนไม่ถูกกักกันเอาไว้ในที่ใดที่หนึ่ง มันไม่เหมือนการพูดแสดงความคิดเห็นในห้องเรียน ที่บางคนกลัว
Why blog ?
เป็นแหล่งที่ทุกคนในห้องเรียนพร้อมมามีส่วนร่วม วิธีการที่จะทำให้ผู้เรียนมีความสนใจต่อบล็อกคือ การสร้างคำถามที่ดี ให้เด็กได้ใช้ความคิด ในการเขียนข้อความในบล็อก เราสามารถใช้ประโยชน์จากสิ่งที่เด็กๆมาคอมเม้น เช่น ข้อผิดพลาดทางภาษา ไวยากรณ์ของเด็ก
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)